1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สถานที่: อำเภอเมืองกาญจนบุรี
ประวัติความเป็นมา:
สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะ (Death Railway) ที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรและแรงงานชาวเอเชียจำนวนมากมาสร้างสะพานแห่งนี้เพื่อเชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งกำลังบำรุงและอาวุธไปยังแนวรบในพม่า
สะพานนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญระดับโลก และเป็นอนุสรณ์สถานเตือนใจถึงความโหดร้ายของสงคราม
กิจกรรม:
- เดินเล่นบนสะพาน:
นักท่องเที่ยวสามารถเดินบนสะพานเพื่อชมทัศนียภาพของแม่น้ำแควและถ่ายรูปมุมต่างๆ ได้ - ถ่ายรูปที่ระลึก:
สะพานข้ามแม่น้ำแควมีมุมถ่ายรูปที่เป็นที่นิยม ไม่ว่าจะเป็นจุดที่มีป้าย “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” หรือมุมกลางสะพานที่มองเห็นทางรถไฟทอดยาว - ขึ้นรถไฟสายมรณะ:
สามารถซื้อตั๋วขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางผ่านเส้นทางรถไฟสายมรณะที่มีทิวทัศน์สวยงามตลอดสองข้างทาง โดยขบวนรถไฟจะวิ่งผ่านสะพานและเส้นทางที่ลัดเลาะไปตามหน้าผาและริมแม่น้ำ (แนะนำให้ตรวจสอบรอบเวลารถไฟล่วงหน้า) - ชมพิพิธภัณฑ์ใกล้เคียง:
ใกล้สะพานมี พิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 (พิพิธภัณฑ์สงครามอักษะและเชลยศึก) ที่จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 และการสร้างสะพาน
เวลาทำการ:
สะพานเปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
การเดินทาง:
สะพานข้ามแม่น้ำแควอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 10-15 นาทีจากตัวเมืองโดยรถยนต์หรือรถสองแถว
เคล็ดลับ:
- หากต้องการถ่ายรูปโดยไม่มีคนพลุกพล่าน ควรมาในช่วงเช้าตรู่
- ในช่วงเทศกาล “งานสะพานข้ามแม่น้ำแคว” (จัดในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม) จะมีการจัดแสดงแสงสีเสียงเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 บริเวณสะพาน
สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนกาญจนบุรี ทั้งในด้านประวัติศาสตร์และความงดงามของสถานที่
สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ก็ยังมีเรื่องราวและข้อเท็จจริงบางอย่างที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับสะพานนี้:
1. สะพานที่ใช้อยู่ปัจจุบันไม่ใช่สะพานดั้งเดิมทั้งหมด
สะพานข้ามแม่น้ำแควที่นักท่องเที่ยวเห็นในปัจจุบันได้รับการซ่อมแซมและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บางส่วนของสะพานที่สร้างโดยเชลยศึกถูกทำลายโดยการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรในปี 1945
2. การสะกดคำว่า “แม่น้ำแคว” ไม่ได้เป็นชื่อดั้งเดิม
ในช่วงที่หนังเรื่อง The Bridge on the River Kwai (1957) ได้รับความนิยม คำว่า “River Kwai” ได้กลายเป็นชื่อสากลที่คนรู้จักไปทั่วโลก แต่จริง ๆ แล้วแม่น้ำในบริเวณนี้เคยถูกเรียกว่า “แม่น้ำแควน้อย” ไม่ใช่ “แควใหญ่” ตามที่ใช้ในปัจจุบัน
3. สะพานถูกสร้างขึ้นด้วยความทุกข์ทรมานอย่างมาก
แม้ว่าส่วนใหญ่จะรู้ว่าสะพานนี้สร้างโดยเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร แต่สิ่งที่ไม่ค่อยพูดถึงคือแรงงานชาวเอเชีย (ที่รู้จักกันในชื่อ โรเมอู) ที่ถูกบังคับให้ทำงานอย่างโหดร้าย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตนับหมื่นคนเช่นเดียวกัน
4. สะพานถูกใช้เป็นเส้นทางการค้าและลำเลียงเสบียงในช่วงสงคราม
เป้าหมายหลักในการสร้างสะพานนี้คือการเชื่อมต่อระหว่างไทยกับพม่า (เมียนมา) เพื่อช่วยลำเลียงเสบียงและอาวุธไปยังแนวรบของญี่ปุ่นในพม่า การสร้างเส้นทางนี้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์อย่างมากในสงครามโลกครั้งที่ 2
5. จุดชมวิวที่น่าสนใจ
บริเวณกลางสะพานเป็นจุดที่ถ่ายรูปยอดนิยม แต่ถ้ามองจากริมน้ำหรือสะพานด้านล่างจะเห็นมุมสะพานที่ค่อนข้างสงบและงดงามมากกว่า อีกทั้งยังมีบางจุดที่สามารถมองเห็นสะพานในมุมที่ต่างออกไป พร้อมวิวภูเขาและแม่น้ำแควที่สวยงาม
6. รถไฟยังคงวิ่งผ่านสะพาน
ถึงแม้ว่าสะพานจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีรถไฟวิ่งผ่านสะพานอยู่ ทำให้นักท่องเที่ยวต้องระมัดระวังเมื่อเดินอยู่บนสะพาน หากโชคดี คุณอาจได้เห็นขบวนรถไฟวิ่งผ่านในระยะใกล้ซึ่งเป็นภาพที่น่าประทับใจ
7. อนุสรณ์สงครามอยู่ไม่ไกลจากสะพาน
ใกล้สะพานยังมีสุสานทหารสัมพันธมิตรที่เรียกว่า สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ซึ่งเป็นที่ฝังศพของทหารฝ่ายสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตจากการสร้างสะพานและเส้นทางรถไฟสายมรณะ
8. บทบาททางภาพยนตร์และสื่อ
แม้ว่าสะพานข้ามแม่น้ำแควจะโด่งดังจากภาพยนตร์ The Bridge on the River Kwai แต่ความจริงแล้วการถ่ายทำไม่ได้ถ่ายที่สะพานแห่งนี้ แต่เป็นการสร้างฉากจำลองในศรีลังกา
สะพานข้ามแม่น้ำแควไม่ใช่แค่จุดถ่ายรูปหรือสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ความทุกข์ทรมาน และบทเรียนแห่งความโหดร้ายของสงครามที่ควรค่าแก่การเรียนรู้
1. Bridge over the River Kwai
Location: Mueang District, Kanchanaburi
Historical Background:
The Bridge over the River Kwai is part of the infamous Death Railway, built during World War II. The Japanese army forced Allied prisoners of war (POWs) and Asian laborers to construct this bridge to connect Thailand and Myanmar (then Burma) for military supply transportation.
The bridge stands as a significant historical landmark and a somber reminder of the hardships endured by those who built it. It has since become a symbol of war and peace, attracting visitors from all over the world.
Activities:
- Stroll on the Bridge:
Visitors can walk along the bridge, admire the stunning views of the River Kwai, and take in the historical atmosphere. - Photography:
Popular photo spots include the “Bridge over the River Kwai” sign and the middle of the bridge, where you can capture the railway tracks stretching over the river. - Ride the Death Railway Train:
Experience history firsthand by taking a train ride along the Death Railway. The journey passes over the bridge and offers breathtaking views along cliffs and riversides. Make sure to check train schedules in advance. - Visit Nearby Museums:
Close to the bridge is the World War II Museum (JEATH War Museum), which exhibits photos, artifacts, and stories of the war and the bridge’s construction.
Opening Hours:
The bridge is open to visitors all day.
How to Get There:
The bridge is located about 5 kilometers from Kanchanaburi town. It takes around 10-15 minutes by car or local transport.
Tips:
- Visit early in the morning for fewer crowds and better photo opportunities.
- During the Bridge over the River Kwai Festival (held in November-December), there is a spectacular light and sound show reenacting historical events from World War II.
The Bridge over the River Kwai is a must-visit site for its historical significance and scenic beauty, offering a blend of history, culture, and nature in one iconic destination.
Contact via LINE: Officer (please click)
LINE ID: @467qtdzo
Or click this link: LINE Capital Van Service
